ช่วงเย็นวันที่ 10 เม.ย. ที่สำนักงานการสอบสวน สำนักงานอัยการสูงสุด นายวัชรินทร์ ภาณุรัตน์ รองอธิบดีอัยการสำนักงานการสอบสวน หัวหน้าคณะทำงานตรวจสอบหรือกำกับการสอบสวน ตามมาตรา 31 แห่ง พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ. 2565 ร่วมประชุมร่วมกับพนักงานสอบสวนดีเอสไอ ในคดีที่ดีเอสไอรับสอบสวนเป็นคดีพิเศษ นายปัญญา หรือลุงเปี๊ยก คงแสนคำ ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีอาญาโดยมิชอบด้วยกฎหมาย เข้าข่ายเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ. 2565
โดยมี นายน้ำแท้ มีบุญสล้าง เลขานุการรองอัยการสูงสุด, นายดุษฎี กลิ่นเกษร พนักงานอัยการ, นายอังศุเกติ์ วิสุทธิ์วัฒนศักดิ์ ผู้อำนวยการกองกิจการอำนวยความยุติธรรม, นายคณพ ปิ่นทอง ผู้อำนวยการส่วนสอบสวนการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย 1 เเละคณะพนักงานสอบสวนดีเอสไอร่วมประชุม โดยภายหลังประชุมกว่า 3 ชั่วโมงเศษ
นายวัชรินทร์ รองอธิบดีอัยการสำนักงานการสอบสวน กล่าวว่า คณะทำงานนี้เป็นคณะทำงานระหว่างทีมอัยการซึ่งอัยการสูงสุดตั้งทีมคณะทำงานชุดนี้ พร้อมกับกรมสอบสวนคดีพิเศษ วันนี้เป็นการประชุมเพื่อลงมติ เพื่อสรุปว่าจะแจ้งข้อกล่าวหากับตำรวจคนใดบ้าง ซึ่งมีการประชุมกันมาตั้งแต่บ่ายจนได้ข้อสรุปเรียบร้อย
ที่ประชุมมีมติเเจ้งข้อหาแบ่งเป็นระดับผู้กำกับสถานีตำรวจภูธรอรัญประเทศ รองผู้กำกับสืบสวน สารวัตรสืบสวนและรองสารวัตรสืบสวน ซึ่งอันนี้คือกลุ่มผู้บังคับบัญชาที่เกี่ยวข้อง และอีกกลุ่มคือกลุ่มที่กระทำความผิดโดยตรงในห้องสอบสวนมีตำรวจชั้นประทวน 3 นาย รวมทั้งหมด 9 นาย หลังจากนี้ก็จะเป็นหน้าที่ดีเอสไอในการออกหมายเรียก แจ้งข้อกล่าวหากับผู้ต้องหาทั้งหมดทั้ง 9 โดยกำหนดวันนัดให้มารับทราบข้อกล่าวหาคือวันที่ 7-9 พ.ค. นี้ เพราะเราให้เวลาในการเตรียมตัวมาพบพนักงานสอบสวน ซึ่งการแจ้งข้อกล่าวหาจากการสรุปวันนี้เป็นเพียงการพิจารณาจากหลักฐานตัวผู้เสียหายคือลุงเปี๊ยก และพยานในที่เกิดเหตุและพยานที่อยู่ในที่เกิดเหตุ ซึ่งมีทั้งนักข่าวและตำรวจในที่เกิดเหตุพยานหลักฐานดังกล่าวเราเห็นว่าเพียงพอที่จะแจ้งข้อกล่าวหา ซึ่งภายหลังเเจ้งข้อกล่าวหา ผู้ต้องหายังมีสิทธิที่จะนำพยานหลักฐานใดๆ ก็ตามมาเเสดงว่าชี้เเจงได้ เพราะทีมงานของเราทำการสอบสวนด้วยความบริสุทธิ์ตรงไปตรงมา เราจะไม่เอาพยานหลักฐานเเค่ส่วนเดียว เราจะเปิดโอกาสให้ผู้กล่าวหาชี้เเจง
ส่วนระยะเวลาในการสรุปสำนวนส่งอัยการสำนักงานปราบปรามการทุจริตเมื่อไหร่นั้น เรื่องนี้ เราสอบสวนพยานได้หลายปากแล้วจนมีแนวทางสรุปจนจะเเจ้งข้อกล่าวหาเเล้ว เพราะเวลานี้การสอบสวนพยานหลักฐานได้เกือบครบถ้วน จึงมีการเเจ้งข้อกล่าวหาไม่ใช่นำผู้ต้องหาเป็นตัวนำ ก็เเสดงว่าพยานหลักฐานเพียงพอเเล้วคดีก็จะถูกส่งไปที่อัยการสำนักงานปราบปรามการทุจริตภาค 2 ส่วนหลังเเจ้งข้อกล่าวหาต้นเดือนพฤษภาคม เเล้วจะสรุปสำนวนส่งอัยการเมื่อใดเราก็ต้องดูว่าทางผู้ต้องหามีพยานหลักฐานให้คณะทำงานสอบสวนเเค่ไหน ไม่ใช่เขาขอให้เราสอบพยานเเล้วไม่สอบให้ ต้องสอบว่าผู้ต้องหามีพยานหักล้างเเค่ไหนเเล้วจึงค่อยสรุปสำนวนอีกครั้งว่าจะเห็นควรสั่งฟ้องใครไม่เห็นควรสั่งฟ้องใครบ้าง ในส่วนที่เราสอบสวนพยานหลักฐานฝ่ายของลุงเปี๊ยกก็ให้การเป็นประโยชน์ต่อรูปคดีจนเชื่อเเละเเจ้งข้อกล่าวหาได้
ด้าน นายน้ำแท้ เลขานุการรองอัยการสูงสุด ระบุว่า ฐานความผิดที่เราเริ่มพิจารณาก็คือตั้งแต่มีการจับตัวลุงเปี๊ยกไปทำให้สูญเสียอิสรภาพ และเมื่อควบคุมตัวแล้วก็ไม่มีการแจ้งให้กับอัยการ หรือฝ่ายปกครองทราบตรงนี้ก็คือการปฎิบัติหน้าที่ไม่ชอบ และภายหลังมีการควบคุมตัวแล้วก็ไม่นำลุงเปี๊ยกไปแจ้งต่อพนักงานสอบสวนทันที แต่กลับนำเขาไปทรมานก็ถือว่าเป็นการกระทำความผิดตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหายฯ ส่วนจะเข้ามาตราไหนบ้างก็จะพิจารณาอย่างละเอียดอีกครั้งในวันแจ้งข้อกล่าวหา ส่วนพฤติการณ์ที่ไม่แจ้งการจับกุมก็เป็นในส่วนของการปกปิดชะตากรรม ทำให้เขาไม่ได้รับสิทธิ์ในการประกันตัวในการพบญาติเเละทนายความ ทำให้สิทธิ์ของลุงเปี๊ยกหายหมดเลยไม่ได้รับการคุ้มครองตามกฎหมาย ซึ่งเป็นความผิดตาม พ.ร.บ. ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหายฯ ในส่วนความผิดที่เกี่ยวกับสิทธิเสรีภาพเราก็จะดูว่าถ้าพบการกระทำผิด เราก็ต้องแจ้งข้อหาในส่วนนี้อีก เพื่อให้ผู้ต้องหาให้การต่อสู้ ก็เท่ากับความผิด 3 ข้อหาคือ 157, ข้อหาตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหายฯ เเละความผิดต่อเสรีภาพกรณีหน่วงเหนี่ยวกักขัง
นายอังศุเกติ์ ผู้อำนวยการกองกิจการอำนวยความยุติธรรมกรมสอบสวนคดีพิเศษ กล่าวว่า โดยหลังจากนี้เราจะดำเนินการออกหมายเรียกผู้ต้องหาให้เร็วที่สุดคาดว่าจะเป็นหลังวันหยุดสงกรานต์นี้เลยให้มารับทราบข้อกล่าวหาในวันที่ 7-9 พ.ค. นี้
สำหรับมูลเหตุของการเเจ้งข้อกล่าวหา มาจาก นายปัญญา หรือลุงเปี๊ยก คงแสนคำ ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีอาญาโดยมิชอบด้วยกฎหมาย ในคดีฆาตกรรมนางบัวผัน ตันสุ หรือป้ากบ หญิงสติไม่ดี วัย 47 ปี เเละเจ้าหน้าที่สถานีตำรวจภูธรอรัญประเทศ จ.สระแก้ว มีการดำเนินคดีกับนายปัญญา ในข้อหาฆาตกรรม โดยตำรวจเเจ้งว่านายปัญญาให้การรับสารภาพว่าเป็นคนลงมือฆ่าเเละกระทำด้วยความมึนเมา ต่อมามีการปรากฎภาพจากกล้องวงจรปิดที่สื่อมวลชนหามาได้จากจุดเกิดเหตุได้เปิดเผยความจริงว่า ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการฆาตกรรมนางบัวผัน เป็นกลุ่มเยาวชน 5 คน ซึ่งในจำนวนนี้มี 2 คนที่เป็นลูกตำรวจใน จ.สระแก้ว เเละมีการนำลุงเปี๊ยกไปทรมาน จนดีเอสไอรับเป็นคดีพิเศษ เเละอัยการสูงสุดมีคำสั่งแต่งตั้งนายวัชรินทร์ ภาณุรัตน์ รองอธิบดีอัยการ สำนักงานการสอบสวนมาเป็นหัวหน้าคณะทำงานตรวจสอบหรือกำกับการสอบสวนคดีนี้คำพูดจาก สล็อตเว็บตรง
10 เม.ย. ชัดเจน นโยบายดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท จากรัฐบาล
อสส. เลื่อนฟังคำสั่งฟ้องคดี ม.112 "ทักษิณ" ออกไปเป็น 29 พ.ค. 67 เหตุผลสอบเพิ่มยังไม่ครบ
แม่ทัพภาคที่ 3 ยัน “เมียวดี” ยังไม่แตก สั่งเข้มลาดตระเวนชายแดน
เช็กโปรแกรมบอล ผลบอลสดแบบเรียลไทม์ ‼️ ✅ได้แล้วที่เว็บไซต์ พีพีทีวี ตามลิงก์นี้เลย >> http://pptv36.tv/1hWR << ไทยลีก พรีเมียร์ลีก และลีกใหญ่ยุโรปครบๆ